นพ.ประดิษฐเผยมีนโยบายให้ สธ.จัดทำ'แพคเกจวัคซีน' ครอบคลุม 4 กลุ่มวัย ป้องกันการเจ็บป่วย ตั้งเป้าให้คนไทยมีสุขภาพดี 100%
เมื่อวันที่ 9 มกราคม นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ที่สำนักงาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ภายหลังประชุมคณะผู้บริหาร สธ. เฉพาะระดับอธิบดีขึ้นไป ว่า การประชุมเป็นการหารือร่วมกันเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามตัวชี้วัดสู่เป้าหมาย ให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี ซึ่งนโยบายนายกรัฐมนตรีต้องการให้ดูแลสุขภาพคนไทยเป็นรายกลุ่มตามช่วงวัย สธ.จึงจะทำในรูปแบบของชุด (แพคเกจ) วัคซีนสุขภาพคนไทยใน 4 กลุ่มวัย ได้แก่ อายุ 0-6 ปี, 7-18 ปี, 19-60 ปี และ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งจะเป็นแพคเกจการดูแลสุขภาพคนไทยครบทุกวัยอย่างเหมาะสม ป้องกันไม่ให้เจ็บป่วย เป็นเหมือนวัคซีนในอดีตที่ช่วยป้องกันโรค
นพ.ประดิษฐกล่าวอีกว่า สำหรับแพคเกจของกลุ่มวัย 0-6 ปี เช่น หญิงตั้งครรภ์ต้องได้รับการตรวจครรภ์อย่างน้อย 4-5 ครั้งก่อนคลอด ต้องคลอดโดยแพทย์ ได้รับวัคซีนพื้นฐานครบถ้วน และได้รับการตรวจคัดกรองโรคทางจิต เช่น เด็กไฮเปอร์ เป็นต้น กลุ่มวัย 7-18 ปี สิ่งสำคัญที่สุด คือ การเตรียมตัวคนกลุ่มนี้ให้มีสุขภาพที่แข็งแรงในอนาคต จะดูแลเรื่องพฤติกรรมสุขภาพ เช่น การไม่ใช้ยาเสพติด การตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น โรคติดต่อ จากการมีเพศสัมพันธ์ การออกกำลังกายและโภชนาการที่ถูกต้อง เป็นการเตรียมตัวให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ กลุ่มวัย 19-60 ปี เป็นวัยทำงาน จะเน้นเรื่องการรักษาสุขภาพให้ดี ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ ควบคุมโรค เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น และ กลุ่มวัย 60 ปีขึ้นไป เป็นวัยสูงอายุต้องดูแลด้วยการซ่อมแซมร่างกาย นอกจากนี้ กลุ่มด้อยโอกาส ที่มีโรคประจำตัวเฉพาะ เช่น ธาลัสซีเมีย โรคทางจิต จะมีแพคเกจดูแลเป็น พิเศษ
"ในเรื่องของการรักษาโรคของคนไทยครอบคลุม 100% แล้ว จากการมีหลัก ประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาท รักษาทุกโรค แต่ในส่วนของการป้องกันการเจ็บป่วยในคนไทยยังไม่สมบูรณ์ เรื่องของแพคเกจวัคซีนสุขภาพ จึงจะเน้นเรื่องของการส่งเสริมป้องกันโรค ให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี โดย ช่วงวัย 0-18 ปี เป็นการตั้งเป้าที่สูงมาก ว่าจะต้องมีการดูแลตามแพคเกจสุขภาพได้ครอบคลุม 100% เพราะเป็นช่วงวัยที่ดูแลและติดตามได้ง่าย ซึ่งวัย 7-18 ปี ส่วนใหญ่จะเป็นโรคสังคม เช่น ยาเสพติด ท้องไม่พร้อม หากป้องกันโรคสังคมเหล่านี้ได้ก็เท่ากับป้องกันโรคได้เกือบ 100%" นพ.ประดิษฐกล่าว และว่า ส่วนโรคติดต่อต่างๆ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ขณะ ที่วัย 18-60 ปี ไม่ได้ตั้งเป้าหมายทะเยอทะยานว่าจะต้องดูแลได้ 100% เพราะมีการเคลื่อนย้ายทำงานต่างๆ ส่วนผู้สูงอายุหากดูแลได้ 50% เท่ากับว่าคนสูงอายุได้รับการดูแลที่ดีขึ้นแล้ว
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 10 มกราคม 2556
- 1 view