รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เชิญชวนรัฐมนตรีสาธารณสุขด้านการดูแลสุขภาพเด็กและผู้สูงอายุ สวีเดน นำชาวสวีเดนใช้บริการสุขภาพในประเทศไทย ในฐานะเป็นศูนย์กลางสุขภาพของเอเชียและนานาชาติอาทิ สปา นวดสุขภาพ การตรวจรักษาทางการแพทย์ หลังพบชาวสวีเดนรอคิวรักษายาว เพราะบุคลากรการแพทย์มีไม่เพียงพอ เผยในปี 2550 ชาวสวีเดนบินมารักษาตัวที่ไทยกว่า 20,000 ราย

นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังให้การต้อนรับนางมาเรีย ลาร์สสัน (Ms. Maria Larsson) รัฐมนตรีด้านการดูแลสุขภาพเด็กและผู้สูงอายุ (Minister for Children and the Elderly) กระทรวงสาธารณสุขและพัฒนาสังคม (Ministry of Health and Social Affairs) แห่งราชอาณาจักรสวีเดน และคณะผู้บริหาร เพื่อหารือความร่วมมือด้านสาธารณสุข ว่า ประเทศไทยและราชอาณาจักรสวีเดนได้มีความร่วมมือด้านสาธารณสุขมายาวนาน โดยประเทศไทยได้เรียนรู้ประสบการณ์จากสวีเดนในหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมแอลกอฮอล์ รวมทั้งการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ซึ่งสวีเดนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีไปทั่วโลก

นายแพทย์สุรวิทย์กล่าวต่อว่า จากการหารือกับรัฐมนตรี ด้านการดูแลสุขภาพเด็กและผู้สูงอายุของสวีเดนพบว่าขณะนี้สวีเดนประสบปัญหาเรื่องบุคลากรการแพทย์มีจำนวนไม่เพียงพอทำให้การรักษาบางอย่างที่ไม่เร่งด่วนต้องเข้าคิวรอเป็นเวลานานจึงได้เชิญชวนให้ประชาชนสวีเดนเดินทางมารับบริการรักษาพยาบาลและบริการสุขภาพที่ประเทศไทยอาทิ สปา นวดไทย บริการการแพทย์เช่นการทำฟัน

การผ่าตัดเฉพาะทางและการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบลองสเตย์ ตามนโยบายของรัฐบาลที่เร่งพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพของเอเชียและนานาชาติ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าประสบผลสำเร็จ ไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติเป็นอย่างมาก มีผู้ป่วยต่างชาติเดินทางมารับบริการ และการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นทุกปี

ในรายงานการวิจัยของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยปี 2553 มีชาวสวีเดนเดินทางเข้ามารับบริการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชน55 แห่งของไทย จำนวน 21,056 ราย จากชาวต่างชาติที่เข้ามารับบริการทั้งหมด 1,373,807 ราย นายแพทย์สุรวิทย์กล่าวต่อไปว่า

นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายมีความเห็นว่าในอนาคต ไทยและสวีเดนน่าจะมีความร่วมมือด้านสุขภาพในหลายๆ ด้านเพิ่มขึ้น ซึ่งจะได้หารือในรายละเอียด และจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศในโอกาสต่อไป