ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการส่งออกภาคเหนือระบุธุรกิจโรงพยาบาลเขตเชียงใหม่เนื้อหอม กลุ่มทุนจากพม่าให้ความสนใจเชื่อมความร่วมมือในธุรกิจร่วมกัน คาด ก.ย.นี้เห็นความชัดเจน เตรียมเจรจาและทำเอ็มโอยูขยายความร่วมมือกันทางวิชาการ
นางขวัญนภา ผิวนิล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการส่งออกภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังศูนย์ส่งเสริมการส่งออกภาคเหนือ (เชียงใหม่) นำภาคเอกชนเดินทางไปพบปะเจรจาธุรกิจกับภาคเอกชน ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า เมื่อเร็วๆ นี้ ผลปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพ เช่น โรงพยาบาลได้รับความสนใจจากภาคเอกชนในพม่า
ล่าสุดมีกลุ่มนักลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาลที่พม่า เช่น กลุ่ม จอห์น ฮอว์กิ้น สิงคโปร์ และ ปัน ฮาลลิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล ฮอสปิตัล ซึ่งเป็น กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดในกรุงย่างกุ้งเดินทางมาดูงานที่โรงพยาบาล ราชเวชเชียงใหม่เพื่อดูความพร้อมเรื่องบุคลากรทั้งแพทย์ พยาบาล และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์
นางขวัญนภา กล่าวว่า แม้กลุ่ม ปัน ฮาลลิ่งฯ จะเป็นโรงพยาบาลที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในพม่า แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องบุคลากรจึงมีโอกาสและแนวโน้มในการพัฒนาความร่วมมือ หรือร่วมทุนกับสมาคมธุรกิจส่งเสริมสุขภาพเชียงใหม่และผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลใน จ.เชียงใหม่ หากมีการเจรจาจนได้ข้อสรุปคาดว่าเร็วๆ นี้อาจมีการทำบันทึกข้อตกลง ระหว่างสมาคมธุรกิจส่ง เสริมสุขภาพเชียงใหม่กับภาคเอกชนของพม่าเพื่อทำตลาดในธุรกิจส่งเสริมสุขภาพร่วมกัน โดยคาดว่าภายในเดือน ก.ย. จะเห็นถึงความร่วมมือดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม
"ธุรกิจสุขภาพในพม่ามีโอกาสและช่องทางอีกมาก ซึ่งปัจจุบันประชากรของพม่ามีมากกว่า 70 ล้านคน เป็นกลุ่มคนมีฐานะทางเศรษฐกิจ 10% และฐานะปานกลาง 80% ซึ่งพร้อมในการใช้จ่ายเงินเพื่อดูแลรักษาสุขภาพ" นางขวัญนภา กล่าว
พญ.กรรณิการ์ พรพัฒน์กุล นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจสุขภาพเชียงใหม่ และรองประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลราชเวชเชียงใหม่ กล่าวว่า การเปิดตลาดในพม่าครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับธุรกิจสุขภาพของจังหวัดเชียงใหม่และอีก 3 จังหวัดในกลุ่มภาคเหนือ ไม่เฉพาะธุรกิจโรงพยาบาลเท่านั้น แต่รวมถึงธุรกิจสุขภาพทั้งระบบ เช่น สปา ทันตกรรมและสมุนไพร
ทั้งนี้หลังจากมีกลุ่มตัวแทนโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่และเอเย่นต์โรงพยาบาลของพม่าสนใจมาศึกษาดูงาน จึงได้เจรจาเพื่อขยายความร่วมมือกันทางวิชาการและเตรียมจะลงนามบันทึกความเข้าใจเบื้องต้น (เอ็มโอยู) เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนและมีความร่วมมือใน 4 ด้าน ได้แก่ การรักษาโรคไต โรค กระดูกและข้อ โรคมะเร็ง โรคหัวใจในเด็กและผู้ใหญ่ และจะเชิญตัวแทนโรงพยาบาลของพม่ามาเซ็นสัญญากันในเดือน ก.ย. ซึ่งสมาคมจะจัดประชุมนานาชาติเกี่ยวกับธุรกิจสุขภาพประจำปี
"กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลมองเห็นโอกาสในการเข้าไปเปิดตลาดพม่า หลังจากมีการเปิดประเทศรับต่างชาติเข้าไปลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเอกชนพม่าเองก็สนใจธุรกิจโรงพยาบาลของไทย โดยเข้ามาศึกษาดูงานบ้างแล้ว ดังนั้นเบื้องต้นจึงน่าจะมีความร่วมมือด้านวิชาการ กันก่อน และขยายความร่วมมือไปสู่การร่วมลงทุนในอนาคต คาดว่าเดือนก.ย. จะเห็นถึงความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม"
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555
- 12 views