นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน กรณีรัฐบาลกลับมาเก็บ 30 บาทว่า ยืนยันว่าทางคณะกรรมการเสียงส่วนใหญ่พิจารณามีความเห็นด้วยอยู่แล้ว แต่เตรียมกระบวนการความเข้าใจกับประชาชนด้านคุณภาพ เมื่อเข้ามาตรวจในอนาคตมาตรวจเรียบร้อยถ้าตรวจเฉย ๆ ไม่ได้รับยาอะไรก็ไม่ต้องเสีย
"ไม่ได้เป็นอะไรอยู่ ๆ ก็เดินมาเพื่อตรวจร่างกายตัวเองไม่มียาก็ไม่ต้องเสีย ถ้าเกิดอยู่ในเกณฑ์บุคคลที่รับการยกเว้นเช่นอายุ 0-12 ปีไม่ต้องเสียหรือผู้สูงอายุไม่ต้องเสียหรือผู้มีสิทธิได้รับการยกเว้นก็ไม่ต้องเสียอันนั้นก็ยังเป็นเหมือนเดิม แต่กรณีท่านตรวจแล้วมีการรับยาอันนี้รัฐบาลมีการจัดเก็บก็คือ 30 บาทและก็จะเรื่องของการเพิ่มเวลาให้บริการและก็เช่นเดียวกัน เช่นอยู่ขอนแก่นแต่เดิมรักษาที่จังหวัดขอนแก่นตอนนี้ท่านมาทำงานที่กรุงเทพมหานครภายใน 15 วัน ถ้าเกิดหรือขอให้สิทธิตรงนี้ก็สามารถไปดำเนินการได้เลยแต่ในรายละเอียดท่านอาจต้องสิทธิที่ไหนรักษาที่นั้น ตอนนี้ไม่ต้องถ้าเจ็บป่วยฉุกเฉินก็จะมาเข้าศูนย์ที่ 3 กองทุนทำงานได้นั้นคือสิ่งที่ให้เวอร์ชั่นในทศวรรษที่ 2 ก็คือ 30 บาทในทศวรรษที่ 2 เวอร์ชั่นใหม่ดูแลพี่น้องและเน้นเรื่องของคุณภาพ"
เมื่อถามถึงกรณีการรักษาฉุกเฉินได้ทันที การตอบรับของประชาชนโดยรวมเป็นอย่างไรบ้าง นายวิทยา กล่าวว่า ความพึงพอใจเรื่องเจ็บป่วยก็เป็นเรื่องสำคัญทางใจ รัฐบาลก็ให้ความสำคัญก็จะมีระบบคำปรึกษาผ่านระบบออนไลน์ข้อมูลซึ่งปัจจุบันเราใช้พันกว่าแห่ง เมื่อวันวานนี้ก็มีการพูดคุยเรื่องนี้ ให้ท่านนายกฯ ได้รับทราบจะมีการใช้เครื่องมือในการดูแลรักษาพยาบาลต่อไปในอนาคตถ้าเจ็บป่วยอาจจะที่บ้านอาจจะมีห้องรักษาพยาบาลห้องหนึ่งไว้ใช้กล้องส่องซูมไปที่นั้นและต่อออนไลน์มาหาหมอทางโรงพยาบาลไม่มีห้องพิเศษให้ท่านก็ไปอยู่ที่นั้นได้หมออาจให้คำปรึกษาได้
“ปัจจุบันเราทำเฉพาะเรื่องของโรคเรื้อรังเช่นเบาหวาน ความดัน เราให้คำปรึกษาคือหมอให้คำปรึกษาผ่านหน้าจอผ่านสไกป์คุยกับคนไข้ที่ห่างไกลกัน 30-40 กิโลเมตร เมื่อวานก็มีการทดสอบเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรียนตามตรงคนไข้ที่เป็นเบาหวาน ความดัน ถ้าต้องการรักษา รับยา แต่เราจะสามารถให้หมอพูดคุยได้โดยผ่านหน้าจอพอคุยกันเสร็จก็จบ” นายวิทยา กล่าว
ที่มา: http://www.thanonline.com
- 4 views