ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดหน่วยแพทย์ดูแลประชาชนร่วมงานพระราชพิธีพระบรมศพ บริเวณสนามหลวง เพิ่มหน่วย ปฐมพยาบาลเชิงรุกเดินเท้าค้นหาป้องกันประชาชนเจ็บป่วย พร้อมตั้งคณะกรรมการฯเพื่อให้การบริหารจัดการเป็นระบบปลอดภัย เบื้องต้นเตรียมจัดบริการอย่างน้อย 100 วัน 

วันนี้ (20 ตุลาคม 2559) พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหารือจัดระบบการแพทย์และสาธารณสุข ในงานพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ณ สนามหลวง โดยมีผู้แทนเข้าร่วมประชุมจากกระทรวงกลาโหม ตำรวจ โรงเรียนแพทย์ แพทยสภา สภากาชาดไทย โรงพยาบาลเอกชน มูลนิธิ สำนักการแพทย์ กทม. สำนักอนามัย กทม. กรมสุขภาพจิต กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อกำหนดกรอบการทำงานอย่างบูรณาการรองรับเหตุฉุกเฉิน เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยครอบคลุมทั้งสุขภาพกายและจิตใจ ความปลอดภัยระบบสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม การกำจัดขยะ น้ำดื่ม เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนที่เข้าร่วมพิธีอย่างดีที่สุด 

นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า จะดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อวางแผนประสานงาน ควบคุมกำกับให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการได้ตามกรอบแนวทางมติที่ประชุม เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ และประสิทธิภาพในการจัดระบบการแพทย์และสาธารณสุข ในงานพระราชพิธีฯ

โดยผลการดำเนินงานในวันที่ 7 ของการปฏิบัติงาน (19 ตุลาคม 2559) ดูแลประชาชน 26,776 คน เป็นการปฐมพยาบาล แจกยาดมแอมโมเนีย 15,055 คน ขอรับยา 6,336 คน ป่วยด้วยอาการปวดศีรษะ/เวียนศีรษะ ไข้เจ็บคอ ปวดท้อง ท้องเสีย อ่อนเพลีย ส่งรักษาต่อ 9 คน ด้วยโรคประจำตัว แน่นหน้าอก ใจสั่น อุบัติเหตุ ปวดท้อง ด้านจิตใจ กรมสุขภาพจิตได้ส่งทีมเยียวยาด้านจิตใจ 8 ทีมให้บริการปฐมพยาบาลด้านจิตใจ 293 คน เข้ารับด้วยตรวจปฏิกิริยาโศกเศร้า เครียดขอรับยา ได้ให้คำปรึกษา/สนับสนุนทางจิตใจหลังให้คำปรึกษาอาการดีขึ้น  

สำหรับจุดให้บริการวันนี้ มี 12 จุด ตั้งอยู่บริเวณโรงแรมรัตนโกสินทร์ สนามหลวงฝั่งเชิงสะพานปิ่นเกล้า สนามหลวง กองอำนวยการ กทม. สนามหลวงฝั่งพระบรมมหาราชวัง ประตูวิเศษชัยศรี ท่าช้าง กระทรวงกลาโหม ศาลหลักเมือง สนามหลวงฝั่งด้านศาลฎีกา ศาลาสหทัยสมาคม โรงพยาบาลสนามกองทัพบก สนามหลวงตรงข้ามวัดมหาธาตุฯ และเพิ่มหน่วยปฐมพยาบาลเดินเท้าสำรวจค้นหาผู้เสี่ยงเป็นลม เจ็บป่วย ในบริเวณที่ประชาชนแออัด.