ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2558 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (U.S. CDC) เพื่อพัฒนางานป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่และยุติปัญหาเอดส์ในประเทศไทย ข้อตกลงความร่วมมือทางการฉบับแรกระหว่าง สปสช.และ U.S. CDC เน้นการสนับสนุนและแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ด้านการจัดการนโยบายงานเอชไอวี และการวางแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพการป้องกัน ค้นหาและดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทย

พิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้จัดขึ้นที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร โดยมี นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รักษาการเลขาธิการ สปสช. และ นพ.จอห์น แมคอาเธอร์ (Dr. John MacArthur) ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย และผู้แทนกลุ่มงานเอชไอวี/เอดส์และวัณโรค ของ U.S.CDC เป็นตัวแทนลงนาม

ความร่วมมือในครั้งนี้มีระยะเวลาดำเนินการประมาณ 5 ปี ซึ่ง สปสช.และ U.S. CDC จะทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้ติดเชื้อเอชไอวี วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยสอดคล้องกับกลยุทธ์ของประเทศ

“ความร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน และตระหนักถึงความจำเป็นในการดำเนินงานเพื่อยุติปัญหาเอดส์ในประเทศไทย เราเชื่อว่า การลงนามในข้อตกลงครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถทำงานร่วมกัน ในการสนับสนุนด้านวิชาการ การคิดค้นนวัตกรรม และการพัฒนาระบบต่างๆ ที่รับมือกับปัญหาการควบคุมการระบาดของเอชไอวีได้ ทั้งในประเทศไทยเอง และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียด้วย เช่น งานห้องปฏิบัติการ และระบบข้อมูลสารสนเทศเชิงกลุยทธ์ เพื่อพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพการทำงาน อันจะนำไปสู่การช่วยชีวิตของผู้ติดเชื้อได้” นายแพทย์จอห์น กล่าว

“ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา จากการดำเนินโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้ สปสช. มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการด้านนโยบาย การวางแผนนโยบายและการสนับสนุนด้านการเงินการคลังในงานเอชไอวี วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมไปถึงการจัดการและพัฒนาบริการดูแลสุขภาพอื่นๆ ด้วย” นายแพทย์จอห์น กล่าว “U.S. CDC รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีในโอกาสที่ได้ทำงานร่วมกับ สปสช. อย่างใกล้ชิดกันกว่าที่ผ่านมา เพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทย และความปลอดภัยด้านสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคเอเชีย”

ด้าน รักษาการเลขาธิการ สปสช. นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ กล่าวว่า “ในช่วงปี 2552-2556 สปสช.มีความร่วมมือกับ U.S. CDC และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่ให้การสนับสนุนด้านการเงินและนโยบายในโครงการพัฒนาคุณภาพบริการ การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ผู้ใหญ่และเด็กในประเทศไทย หรือ HIVQUAL-T โดย U.S. CDC ให้การสนับสนุนด้านวิชาการ จึงเกิดเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการดูแลรักษาเอชไอวีขึ้นระดับภาคและระดับจังหวัด สร้างความเข็มแข็งให้กับระบบบริการ เพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น”

นพ.ประทีป กล่าวต่อว่า “ความร่วมมือครั้งนี้จะนำไปสู่การสนับสนุนด้านวิชาการ การจัดการนโยบายและการเงินการคลัง และระบบข้อมูลสารสนเทศเชิงกลยุทธ์เพื่อพัฒนาศักยภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกัน ควบคุมและดูแลรักษาเอชไอวี วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงการแลกเปลี่ยนเพื่อพัฒนาให้เป็นต้นแบบสำหรับการถ่ายทอดความสำเร็จของการจัดการนโยบายและการเงินการคลังเพื่อการป้องกันและยุติปัญหาเอดส์สำหรับประเทศต่างๆ ด้วย”