ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“หมอประดิษฐ์ ประธาน สพศท.” เชื่อ ชมรมแพทย์ชนบทออกโรงแฉทุจริต เปลี่ยนรักษาการ ปลัด สธ. เป็นการเมือง หวังสกัด “หมอณรงค์” กลับนั่งปลัด สธ. ชี้ปัญหาขัดแย้งในระบบสาธารณสุข เหตุใช้ศิลปะการเมืองมากกว่าความเชี่ยวชาญวิชาชีพแก้ปัญหา พร้อมแนะทางออกผู้บริหาร สธ. และตระกูล ส.ต้องนำการเมืองออกจากระบบก่อน ชี้สาธารณสุขเป็นเรื่องสุขสาธารณะ ต้องมองทุกคน ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จึงต้องละความเป็นพรรคพวกออกไป แต่ตอนนี้ระบบยังเป็นพวกเรากับไม่ใช่พวกเราอยู่ ทำให้สุขเกิดไม่ได้

นพ.ประดิษฐ์ ไชยบุตร

นพ.ประดิษฐ์ ไชยบุตร ประธานสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) กล่าวถึงกรณีการออกมาเปิดเผยข้อมูลการทุจริตต่อหน้าที่ราชการและขัดนโยบายรัฐบาลของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ของชมรมแพทย์ชนบท พร้อมยื่นหนังสือต่อ รมว.สาธารณสุข และนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สอบสวน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่า ข้อมูลที่ชมรมแพทย์ชนบทนำมาเปิดเผยในครั้งนี้ มีหลายประเด็นที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงอย่างมาก อย่างกรณีเรื่องการใช้รถประจำตำแหน่ง ซึ่ง นพ.สุทัศน์ ศรีวิไล ประธานประชาคมสาธารณสุข ได้ออกมาให้ข้อมูลแล้วว่าสามารถทำได้ เพราะได้มีการปรับระเบียบใหม่แล้ว โดยอนุญาตให้สามารถใช้รถได้หากได้รับมอบหมายงานในราชการ ซึ่งทางแพทย์ชนบทยังคงอ้างอิงระเบียบเก่า

ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นตรงกับสื่อมวลชนที่ได้วิเคราะห์การเปิดข้อมูลของชมรมแพทย์ชนบทในครั้งนี้ที่ระบุว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งไปยัง นพ.ณรงค์ โดยต้องการสกัดไม่ให้กลับมาทำงานที่ สธ. หลังจากที่มีกระแสการเตรียมคำสั่งเพื่อย้ายกลับ เช่นเดียวกับกรณีการเปลี่ยนรักษาการปลัด สธ. จาก นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย เป็น นพ.อำนวย กาจีนะ รองปลัด สธ. เนื่องจากมองว่าการเปลี่ยนตัวรักษาการครั้งนี้ ไม่ได้มีผลต่อผู้ปฏิบัติงานในระดับล่าง   

“ผมเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของสื่อที่มองว่า เป็นเพียงแค่การสกัด นพ.ณรงค์กลับสู่ตำแหน่ง รวมถึงการเปลี่ยนตัวรักษาการปลัด สธ. ขณะนี้ก็เป็นการรเมืองของรัฐมนตรี สธ.เท่านั้น ”

นพ.ประดิษฐ์ กล่าวว่า ปัญหาสาธารณสุขบ้านเรามีมายาวนานและหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาบุคลากร ปัญหาระบบ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานที่มีคนเก่ง และไอคิวสูง ซึ่งคนภายนอกมองว่าทำไม สธ. และ สปสช.จึงแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้  ซ้ำยังมีการทะเลาะเบาะแว้งกัน สาเหตุสำคัญมาจากผู้บริหาร สธ .และผู้บริหารหน่วยงานตระกูล ส.ต่างใช้การเมืองแก้ไขปัญหา ส่งผลให้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในระบบทุกวันนี้ กลายเป็นเรื่องการเมืองไปหมดแล้วแล้ว และการเมืองก็ต้องเอาชนะกันอีก

ต่อข้อซักถามว่า ทางออกเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งนี้ควรทำอย่างไร นพ.ประดิษฐ์ กล่าวว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในระบบสาธารณสุขทุกวันนี้ มองว่าสามารถพูดคุยกันได้ เพียงแต่จะต้องนำการเมืองออกไปก่อน และที่ผ่านมาผู้บริหารตระกูล ส.มองว่า คนที่เห็นต่างจากตนเองถือเป็นฝ่ายตรงข้าม และทาง สธ.ก็มองว่ากลุ่มตระกูล ส.ต่างมีผลประโยชน์กันในกลุ่มของเขา เพราะมีแพทย์เพียงกลุ่มเดียวที่วนเวียนอยู่ในหน่วยงานเหล่านี้ ทั้งยังมีการจัดตั้งกลุ่มประชาชนของตนเอง ถ้าต่างออกจากตรงนี้ไปได้ โดยมองที่ประโยชน์ของระบบจริงๆ ละวางตรงนี้บ้าง และนำความรู้ความเชี่ยวชาญมาใช้ก็จะแก้ปัญหาขัดแย้งนี้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสถานการณ์ยังคงความขัดแย้งต่อเนื่อง ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จะเป็นอย่างไร นพ.ประดิษฐ์ กล่าวว่า ระบบสาธารณสุขคงเดินไป แต่คงไปแบบเอียงๆ อาจจะแก้ไขได้บ้าง แต่ปัญหาใหม่ก็จะตามมาอีก เพราะขาดการสมดุลและการมองปัญหาอย่างรอบด้าน

“ขณะนี้ผู้บริหารระบบสาธารณสุขนำศิลปะทางการเมืองมาแก้ปัญหา มากกว่าใช้ความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพมาแก้ ถ้ากลับกันโดยนำความรู้ความเชี่ยวชาญวิชาชีพมาใช้ก็จะแก้ไขปัญหาได้มากขึ้น ซึ่งผู้บริหารในที่นี้หมายถึงผู้บริหาร สธ. และผู้บริหารตระกูล ส. ทั้งหมด  ทั้งนี้ เรื่องสาธารณสุขเป็นเรื่องสุขสาธารณะ ที่ต้องมองทุกคน ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จึงต้องละความเป็นพรรคพวกออกไป แต่ตอนนี้ระบบยังเป็นพวกเรากับไม่ใช่พวกเราอยู่ ทำให้สุขเกิดไม่ได้” นพ.ประดิษฐ์ กล่าว และว่า พร้อมกันนี้อยากฝากว่า การเกิดแก่เจ็บตายเป็นของทุกคน ทั้งยังเป็นเรื่องสาธารณสุข หากเราไม่สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ เราก็ไม่สามารถช่วยประชาชนพ้นทุกข์ได้เช่นกัน