ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดสธ.เตรียมตั้งกรรมการตรวจสอบเงินระบบสุขภาพ-กองทุน 30 บาท มอบ 5 ชมรมสาธารณสุขทำข้อเสนอจัดสรรงบบัตรทอง 2558 ไตรมาสสอง ก่อนหารือย่อย 30 ต.ค. ยันควรให้เขตสุขภาพจัดสรรงบจากบัญชี แต่สปสช.ส่งงบตรงจากส่วนกลางไปหน่วยบริการเช่นเดิม ปลัดสธ. ย้ำไม่ได้สั่งขึ้นป้ายต้านสปสช.  ส่วนที่เกิดเหตุการณ์ประท้วงที่เขต 12 เป็นความทุกข์ใจจริงๆในพื้นที่ ไม่มีใครสั่ง ยกคำนายกฯที่พูดถึงข่าวลือ “ถ้าไม่รับฟังก็เซ่อ ถ้าเชื่อก็โง่”

จากกรณีคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) มีมติให้การจัดสรรงบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปี 2558 ในไตรมาสแรกยึดตามหลักเกณฑ์การจัดสสรเช่นเดียวกับปีงบประมาณ 2557 ส่วนในไตรมาสสอง ให้คณะอนุกรรมการพัฒนาการระบบการเงินการคลัง ในบอร์ด สปสช. ซึ่งมีทั้งภาคส่วนของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สปสช. ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ไปหารือให้ได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือน

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานการประชุมชี้แจงการบริหารงบประมาณปี 2558 ให้กับผู้บริหารสำนักงานปลัดสธ. ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป เข้าร่วมรับฟัง 

นพ.ณรงค์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้หารือกับผู้บริหารสธ.ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค เห็นตรงกันว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการ ตรวจสอบงบประมาณในระบบสุขภาพซึ่งแต่ละปี มีประมาณ 2 แสนล้าน โดยแบ่งเป็นของกระทรวงสาธารณสุข 8 หมื่นล้าน และ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 1.2 แสนล้าน โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการ 2 ระดับ แบ่งเป็น คณะกรรมการตรวจสอบส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค โดยส่วนกลาง จะมีการตั้งกรรมการแบ่งเป็น 2 ระดับ โดยส่วนกลาง จะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิ มาเป็นกรรมการตรวจสอบ ขณะที่ส่วนภูมิภาค ส่วนราชการในสังกัดสธ. รวมถึงเขตบริการสุขภาพ จะทำหน้าที่ตรวจสอบ โดยขณะนี้ได้เริ่มตรวจสอบไปบ้างแล้ว

นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระแสข่าวที่ให้โรงพยาบาล และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ขึ้นป้ายต่อต้านการบริหารงานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) อย่างไรก็ตาม ขอใช้คำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับข่าวลือว่า "ถ้าไม่รับฟังก็เซ่อ ถ้าเชื่อก็โง่" ส่วนที่เขตบริการสุขภาพที่ 12 มีความเคลื่อนไหว หรือขึ้นป้ายต่อต้านสปสช.นั้น เป็นความทุกข์ใจจริงๆ ในพื้นที่มากกว่าที่จะมีใครสั่ง

ด้านเว็บไซต์ASTVผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการสาธารณสุข (สบรส.) สธ. กล่าวว่า การจัดสรรงบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปี 2558 ในไตรมาสที่สองนั้น ที่ประชุมได้มอบหมายให้ 5 ชมรมด้านสาธารณสุข ประกอบด้วย ชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน ชมรมสาธารณสุขสุขแห่งประเทศไทย และชมรมหมออนามัย กลับไปทำข้อเสนอ เพื่อนำมาหารืออีกครั้งในวันที่ 30 ต.ค. นี้ ซึ่งเป็นการประชุมย่อยระหว่าง สธ. สปสช. และส่วนภูมิภาค เพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการงบที่เหมาะสม ก่อนที่จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบการเงินการคลัง ในบอร์ด สปสช. ต่อไป       

นพ.ธงชัย กล่าวว่า สธ. ยังคงยืนยันว่าระบบการจัดสรรงบหลักประกันสุขภาพฯ ควรจัดระบบใหม่ให้เกิดประสิทธิภาพ โดยยืนยันว่าควรดำเนินการโดยเขตสุขภาพ โดยเขตสุขภาพควรรับทราบตัวเลขบัญชีงบหลักประกันสุขภาพฯ เพื่อจัดสรรอย่างเหมาะสมให้แก่หน่วยบริการ ในการแก้ปัญหาสาธารณสุข ซึ่งแต่ละพื้นที่มีปัญหาที่แตกต่างกัน และเขตจะเข้าใจปัญหาได้ดีกว่าการกำหนดจากส่วนกลาง ส่วนการส่งเงินไปยังหน่วยบริการก็ให้ส่งจากส่วนกลางไปหน่วยบริการโดยตรงเช่นเดิม ไม่ผ่านเขตสุขภาพ อย่างไรก็ตาม สปสช. ยังไม่เห็นตรงกันในเรื่องนี้ โดยมองว่าควรบริหารจัดการงบแบบเดิม นอกจากนี้ ในที่ประชุม ปลัด สธ. ยังกำชับให้ส่วนภูมิภาคเร่งรัดการใช้งบลงทุนปีงบประมาณ 2558 ตามนโยบายของรัฐบาลด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สธ.ได้แจกเสื้อแจ็คเกตเขียนข้อความว่า “พลังสธ. ขับเคลื่อนเขตสุขภาพเพื่อประชาชน” ให้กับผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนใส่ในการประชุมครั้งนี้อีกด้วย