ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช. จับมือ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานประกันสังคม จัดอบรม “โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่ให้บริการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ตามแนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีประเทศไทย ปี 2557” เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพบุคลากรให้มีความรู้ตามเกณฑ์ปรับปรุงใหม่ ช่วยเพิ่มคุณภาพผู้ติดเชื้อไอวี/เอดส์ รองรับปีงบประมาณ 2558

21 ก.ย.57 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานประกันสังคม จัดโครงการ “พัฒนาศักยภาพบุคลากรที่ให้บริการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ตามแนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีประเทศไทย ปี 2557” โดยมี นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการอบรม เพื่ออบรมบุคลากรเกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ อาทิ แพทย์ผู้ให้การรักษา ผู้ประสานงานด้านเอดส์จากหน่วยบริการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและประกันสังคม เจ้าหน้าที่สำนักควบคุมโรค (สคร.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) คณะทำงานวิชาการด้านเอสด์ระดับเขต และผู้ทำงานด้านเอดส์ในพื้นที่ ตลอดจนเจ้าหน้าที่จากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) พัฒนาการดูแลรักษาฯ ตามหลักเกณฑ์ใหม่ ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ จำนวน 781 คน

นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยมีการให้บริการ ส่งเสริมและป้องกัน ตลอดจนการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ในประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนและผลักดันดำเนินการจัดระบบด้านวิชาการโดยกรมควบคุมโรค และการดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยยาต้านไวรัสเอดส์ในทุกระบบทั้งผู้ประกันตนในระบบของประกันสังคม ข้าราชการ และผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนและรับยาต้านไวรัสเอดส์รวมทุกสิทธิกว่า 310,000 ราย

ทั้งนี้ที่ผ่านมาทั้งกรมควบคุมโรค และ สปสช. ได้จัดระบบการบริการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ตามมาตรฐานแนวทางการรักษาระดับชาติมาโดยตลอด และในปี 2557 นี้กรมควบคุมโรคได้มีปรับปรุงหลักเณฑ์การการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ให้ทันสมัยกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการรักษา โดยผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมโรคเอดส์ มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลของรัฐ และจะใช้เป็นมาตรฐานแนวปฏิบัติสำหรับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในการตรวจวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี ปี 2557

ดังนั้นเพื่อให้การตรวจวินิจฉัยและการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ใหม่นี้ สปสช. จึงได้ร่วมกับ กรมควบคุมโรค และสำนักงานประกันสังคม จึงได้จัดโครงการ การพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่ให้บริการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยเอดส์ ตาม “แนวทางการตรวจรักษาและป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีประเทศไทย ปี 2557” เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ให้มีความรู้ ทักษะทางวิชาชีพที่ทันสมัยและเป็นมาตรฐานเดียวกัน

ด้าน พญ.สุชาดา ไชยวุฒิ ผู้อำนวยการแผนงานสนับสนุนระบบบริการเอดส์ วัณโรค สปสช. กล่าวว่า จากการปรับปรุงแนวทางเวชปฏิบัติของการตรวจวินิจฉัยและการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ของประเทศไทย มีการปรับเกณฑ์การดูแลและรักษาในหลายประเด็น และที่สำคัญได้แก่ การเริ่มยาต้านไวรัสให้แก่ผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ในทุกระดับของเม็ดเลือดขาว CD4 ประกอบกับ สปสช.ได้รับงบประมาณในปี 2558 ที่ให้ครอบคลุมเป้าหมายของการรักษาเพิ่มมากขึ้นด้วย จึงจะต้องให้สิทธิประโยชน์แก่ประชาชนตามที่ได้รับ

พญ.สุชาดา กล่าวว่า จากการปรับเปลี่ยนแนวทางเวชปฏิบัติในการดูแลและรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ใหม่นี้ ทั้งการให้ยาต้านไวรัส การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เป็นต้น จึงต้องจัดอบรมแก่หน่วยบริการและผู้ดูแลผู้ป่วยให้ทราบถึงแนวทางปฏิบัติเพื่อพัฒนาความรู้และความสามารถในการให้การดูแลรักษาให้มีคุณภาพ เพื่อรองรับการประกาศสิทธิประโยชน์ใหม่นี้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2557 นี้เป็นต้นไป โดยการอบรมมีขึ้นทั้งหมด 5 ครั้ง คือที่เขตสงขลา เขตขอนแก่น เขต กทม. เขตอุบลราชธานี และเขตเชียงใหม่ ซึ่งจะจัดภายในเดือนกันยายนนี้

 “การจัดอบรมโครงการดังกล่าวนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นความร่วมมือในการพัฒนาระบบการรักษาและดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ให้ได้รับการดูแลที่ดียิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยที่นับเป็นภารกิจสำคัญของ ทั้ง สปสช.และกรมควบคุมโรค” ผู้อำนวยการแผนงานสนับสนุนระบบบริการเอดส์ วัณโรค สปสช.