ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.ส่งหนังสือลับด่วนที่สุด ตอบ สสลท. ยันทำตามข้อเรียกร้องไม่ได้ ทั้งปรับเงินเดือน การบรรจุเป็นลูกจ้างประจำ ขณะที่ “โอสถ” เผย สสลท.เดินหน้าเคลื่อนไหวใหญ่ 1 ก.ย. เรียกร้อง คสช.แก้ปัญหา หลัง สธ.ท่าทีชัดไม่เหลียวแล พร้อมระบุ สธ.แจงฟังไม่ขึ้น เหตุลูกจ้างชั่วคราวหน่วยงานอื่นปรับเงินเดือนเพิ่มได้ พร้อมจวก สธ. ทำหนังสือลับแจง ไม่จริงใจ

14 ส.ค. 57 นายโอสถ สุวรรณเศวต รองประธานสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างรัฐแห่งประเทศไทย (สสลท.) กล่าวถึงกรณีที่ทางชมรมแพทย์ชนบทได้โพสต์หนังสือตอบกลับจากกระทรวงสาธารณสุขถึงตนเอง โดยชี้แจงของเรียกร้องของทาง สสลท.ที่ได้ยื่นต่อทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า เป็นหนังสือที่ทางกระทรวงสาธารณสุขส่งตรงถึงตนเองโดยได้รับเมื่อวานนี้ (13 ส.ค.) ลงนามโดย นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นการชี้แจงเหตุผลที่ สธ. ไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องที่ สสลท.ได้ขอความเป็นธรรมต่อทาง คสช.ได้ ทั้งการพิจารณาปรับลูกจ้างชั่วคราวและพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) สายสนับสนุนเป็นลูกจ้างประจำ และการพิจารณาปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายเดือน เป็นเดือนละ 9,000 บาท ตามประกาศของกระทรวงแรงงาน

โดยหนังสือดังกล่าวซึ่งลงวันที่ 6 ส.ค.57 มีเนื้อหาตอบกลับข้อเรียกร้องดังนี้ 1.การปรับลูกจ้างชั่วคราวและ พกส.สายสนับสนุนเป็นลูกจ้างประจำนั้น ไม่อาจดำเนินการได้ เนื่องจากมติ ครม. เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 46 เห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ(คปร.) ให้ทุกส่วนราชการยุบเลิกตำแหน่งลูกจ้างประจำที่ว่างลงจากผลการเกษียณและอัตราว่างระหว่างปีทุกตำแหน่ง เพื่อปรับเข้าสู่ระบบลูกจ้างสัญญาจ้างตามหนังสือสำนักเลขาธิการ ครม. ด่วนที่สุด นร ๐๕๐๔/ว ๒๔๔ ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2556 และให้ส่วนราชการเสนอกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการเพื่อจะได้สามารถจ้างพนักงานราชการมาปฏิบัติแทนลูกจ้างประจำที่ว่างลง

2.การปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายเดือน เป็นเดือนละ 9,000 บาท ตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่องอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2555 ข้อกำหนดที่ 5 กำหนดว่า อัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามประกาศฉบับนี้ไม่มีผลบังคับใช้กับราชการส่วนกลางและราชการส่วนภูมิภาค และยังระบุด้วยว่า ขณะนี้ สธ.มี พกส. 120,000 คน ค่าจ้างเป็นเงินบำรุงของส่วนราชการ แม้จะไม่เท่ากับประกาศของกระทรวงแรงงาน แต่ก็มีสวัสดิการอื่นๆ ใกล้เคียงกับข้าราชการ เช่น การเพิ่มค่าจ้างประจำปี การลาก้ยังได้รับค่าจ้าง เบิกจ่ายค่าเดินทางไปราชการ ค่าเบี้ยประชุม ค่าฝึกอบรม ลาศึกษาต่อได้ และกอองทุนสำรองเลี้ยงชีพซึ่งอยู่ในระหว่างจัดตั้งกองทุน เป็นต้น อย่างไรก็ดี กระทรวงสธ.กำลังพิจารณาแนวทางในการปรับอัตราค่าจ้างโดยคำนึงถึงค่าเฉลี่ยของค่าแรงในสถานบริการระดับเดียวกัน (Average Labor Cost)

นายโอสถ กล่าวว่า หลังได้รับหนังสือแล้ว ได้มีการเรียกประชุม สสลท.ทันที และมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ทาง สสลท.และลูกจ้างชั่วคราว สธ. และ พกส.สายสนับสนุนวิชาชีพ สธ. จะยังคงรวมตัวเคลื่อนไหวใหญ่เพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เนื่องจากเหตุผลที่ทาง สธ.ชี้แจงนั้น ไม่เป็นเหตุเป็นผลเพียงพอ อย่างกรณีการเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 9,000 บาท ที่ทาง สธ.อ้างว่าไม่มีผลบังคับใช้กับราชการส่วนการและราชการส่วนภูมิภาค ตรงนี้อยากถามกลับไปแล้ว แล้วเหตุใดทำไมลูกจ้างชั่วคราวทำงานในส่วนราชการอื่นๆ กลับมีการปรับเพิ่ม เช่นเดียวกับที่ระบุว่า ลูกจ้างชั่วคราว และ พกส.มีสวัสดิการอื่นๆ ใกล้เคียงกับข้าราชการก็ไม่เป็นความจริง

“เราคงต้องเดินหน้าขอความเป็นธรรมจากท่าน พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่ 1 ก.ย. นี้ ซึ่งท่านมีนโยบายต่างๆ ที่เห็นใจคนระดับล่าง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มค่าตอบแทนให้อาสาสมัครทหารพราน อาสาสมัครรักษาแผ่นดิน ท่านคงจะมองเห็นและเห็นใจคนระดับล่างที่ทำงานในระบบสาธารณสุขที่เป็นคนทำงานประจำด้วย ซึ่งคนกลุ่มนี้ที่ผ่านมาไม่ได้รับการเหลียวแลจาก สธ.เท่าที่ควร แม้ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจต้องถูกจับกุมก็คงต้องยอม เพราะพวกเราอดทนกันมานาน” รองประธาน สสลท. กล่าว

นายโอสถ กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้ดูการดำเนินการของ สธ.จากหนังสือตอบกลับฉบับนี้ ต้องถามกลับว่าทำไม นพ.วชิระต้องทำเป็นหนังสือลับและส่งตรงถึงตน ทำไมไม่ส่งถึง คสช.ที่ตนได้เข้าร้องขอความเป็นธรรม และในข้อเท็จจริง สธ.ควรชี้แจงต่อสาธารณะด้วย เพราะการร้องขอความเป็นธรรมของทาง สสลท.เป็นการเปิดเผยต่อสาธารณะให้รับทราบ แต่ สธ.กลับตอบเป็นหนังสือลับ แค่นี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงเจตนาและความจริงใจในการแก้ไขปัญหาแล้ว เช่นเดียวกับที่จะมีการประชุมคณะกรรมการ พกส.สธ.ในวันที่ 15 ส.ค. มองว่าเป็นเพียงแค่การแก้เกี้ยวเท่านั้น ซึ่งผลที่ออกมาคงไม่ต่างจากเดิม อย่างไรก็ตามก่อนการเคลื่อนไหวใหญ่ 1 ก.ย. หาก คสช.เชิญหารือทาง สสลท.ยินดีเข้าพูดคุย เพราะทาง สสลท.ไม่ใช่เด็กดื้อ แต่ที่ต้องออกมาเพราะมีความเดือนร้อนที่ต้องได้รับความเป็นธรรมเท่านั้น.