ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมอนามัย มอบรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 2556 จำนวน 22 แห่ง และรางวัลบุคคลต้นแบบการพัฒนาส้วมสาธารณะไทย เพื่อสร้างกำลังใจให้หน่วยงานที่พัฒนาและจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ประชาชนมีส้วมมาตรฐาน HAS สำหรับใช้บริการเพิ่มขึ้นสร้างสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

29 ก.ค. 57 นพ.พรเทพ  ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธาน ในพิธีมอบรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 2556 ณ โรงพยาบาลสิงห์บุรี อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี ว่า กรมอนามัยได้ดำเนินการพัฒนาส้วมสาธารณะของประเทศให้ได้มาตรฐาน HAS คือสะอาด เพียงพอ และปลอดภัยมาตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2556 ส้วมสาธารณะทั่วประเทศได้มาตรฐาน HAS โดยเฉลี่ย ร้อยละ 66.83 และเพื่อเป็นการขับเคลื่อนให้มีการพัฒนาส้วมสาธารณะให้ได้มาตรฐาน และมีการบริหารจัดการส้วมสาธารณะที่ดีสามารถเป็นต้นแบบที่ดีให้กับสถานที่อื่น จึงได้มีการมอบรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปีมาแล้ว 9 ปี รวมจำนวน 204 แห่ง และมี 59 แห่งแสดงบนแผนที่ทางหลวงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว 

ในปี 2556 มีหน่วยงานที่ได้รับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี จำนวน 22 แห่ง อาทิ เดอะพรอมนาด กรุงเทพฯ วัดท้ายยอ จ.สงขลา โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ จ.เชียงใหม่  โรงพยาบาลราชบุรี จ.ราชบุรี สำนักงานเทศบาลตำบลทุ่งลุยลาย จ.ชัยภูมิ อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า จ.กำแพงเพชร สถานีตำรวจภูธรเขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ สวนมิ่งมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา จ.สระบุรีบริษัท บีแอลซีพี จ.ระยอง รพ.สต.แม่สำ จ.สุโขทัย ศาลหลักเมืองพังงา จ.พังงา รพ.สต.คลองสระ จ.สุราษฎร์ธานี และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา จ.สงขลา เป็นต้น และรางวัลบุคคลต้นแบบการพัฒนาส้วมสาธารณะไทยแก่นายประเสริฐ สอนเจริญทรัพย์ สาธารณสุขอำเภอแม่สอด จ.ตาก

นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า การขับเคลื่อนส้วมสาธารณะไทยให้บรรลุเป้าหมายนั้น กรมอนามัยได้ดำเนินงานโดยได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาและปรับปรุงส้วมสาธารณะให้ได้มาตรฐาน HAS  โดยเน้น “ส้วมสาธารณะ 12 ประเภท ได้แก่ 1) สถานศึกษา 2) สถานที่ราชการ 3) โรงพยาบาล 4) ศาสนสถาน 5) ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า 6) แหล่งท่องเที่ยว 7) สวนสาธารณะ 8) สถานีขนส่งทางบกและทางอากาศ 9) ตลาดสด 10) ร้านจำหน่ายอาหาร 11) สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และ12) ส้วมสาธารณะริมทาง  และกรมอนามัยได้ผลักดันให้นำหลักการสุขาภิบาลยั่งยืนด้วยการใช้ประโยชน์จากของเสีย ได้แก่ การนำน้ำปัสสาวะและน้ำล้างมือมาใช้ในการเกษตร อีกทั้งยังช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วยการส่งเสริมให้มีนวัตกรรมการใช้สุขภัณฑ์ที่ประหยัดน้ำ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ผลิตพลังงานไฟฟ้า  ลดการใช้สารเคมีด้วยการใช้ น้ำหมักชีวภาพในการทำความสะอาดห้องส้วม

ตัวอย่างสุดยอดส้วมแห่งปี 2556 ที่นำหลักการดังกล่าวมาพัฒนา เช่น โรงพยาบาลวัดโพธิ์เกรียบ จ.อ่างทอง ร้านอาหารกังหันลม จ.ลพบุรี โรงพยาบาลโคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร โรงพยาบาลยี่งอเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นราธิวาส รพ.สต.บ้านหนองขอน จ.นครสวรรค์  รพ.สต.บ้านต้นปรง จ.ตรัง วัดสุวรรณรัตน์โพธิ์ยาราม จ. สุรินทร์ และสำนักงานสาธารณสุขนิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร  เป็นต้น”

“ทั้งนี้ โรงพยาบาลสิงห์บุรีเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 2556 ประเภทโรงพยาบาลทั่วไปนับเป็นตัวอย่างที่ดีที่มีความเข้มแข็งด้านเครือข่ายพัฒนาส้วมสาธารณะในจังหวัดสิงห์บุรี และยังให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีการทำน้ำหมักชีวภาพใช้ในการทำความสะอาดห้องส้วม และมีการใช้สมุนไพรดับกลิ่น นอกจากนี้ ได้มีการรณรงค์ให้ประชาชนมีความตระหนักถึงพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะอย่างถูกต้อง โดยไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบนั่งราบ ราดน้ำหรือกดชักโครกทุกครั้งก่อนและหลังการใช้ส้วม ไม่ทิ้งวัสดุอื่น นอกจากกระดาษชำระลงโถส้วม และล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้ง เพื่อสุขอนามัยที่ดี” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว