ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ลอนดอน - องค์การอนามัยโลกจัดประชุมฉุกเฉินหารือการระบาดของไวรัสเมอร์สในตะวันออกกลาง ขณะยอดผู้เสียชีวิตในซาอุดีอาระเบียพุ่ง ด้านสหรัฐอาจติดเชื้อเพิ่ม

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและโรคติดต่อประชุมกันที่องค์การอนามัยโลกที่นครเจนีวา เพื่อหารือกรณีไวรัสเมอร์สระบาดในตะวันออกกลางตั้งแต่ปี 2555 ว่าเรื่องนี้เข้าข่ายภาวะฉุกเฉินทางสาธารณะสุขที่ทั่วโลกต้องวิตกหรือไม่

มีรายงานว่ามีผู้ติดไวรัสเมอร์สในซาอุดีอาระเบียประเทศเดียวกว่า 500 คน ทั้งยังมีการระบาดไปทั่วภูมิภาค และยังมีการกระจัดกระจายไปยังยุโรป เอเชีย และสหรัฐ ไวรัสดังกล่าวมีอัตราการเสียชีวิตราว 30% จากจำนวนผู้ติดเชื้อ

ผู้เชี่ยวชาญที่ประชุมกันครั้งนี้ จะพิจารณาว่าผู้ติดเชื้อที่เพิ่มจำนวนขึ้นมากในซาอุดีอาระเบีย ประกอบกับการระบาดเป็นจุดๆ ไปยังประเทศอื่น หมายความว่าโรคนี้สมควรถูกจัดให้เป็นเรื่องเร่งด่วนหรือฉุกเฉินระหว่างประเทศหรือไม่

ล่าสุดซาอุดีอาระเบียประกาศว่ามีผู้เสียชีวิตจากไวรัสนี้อีก 5 ราย ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 152 ราย พร้อมรายงานผู้ติดเชื้อใหม่อีก 4 คน ทำให้ผู้ติดเชื้อมีทั้งหมด 495 คน

ผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ในเมืองเจดดาห์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางพาณิชย์ในทะเลแดง ส่วนอีกรายอยู่ในกรุงริยาดห์

ด้านสหรัฐพบผู้ที่อาจติดเชื้อเป็นคนที่ 3 โดยนายจีโอ โมราเลส โฆษกโรงพยาบาลออร์แลนโด กล่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ 2 คนจากที่ติดต่อสัมผัสกับคนไข้ที่ยืนยันว่าติดเชื้อเมอร์ส เจ้าหน้าที่คนหนึ่งในจำนวน 2 คนได้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและมีอาการทรงตัว ส่วนอีกคนหนึ่งเข้ารับการรักษาและออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว กำลังเข้ารับการกักบริเวณในบ้านพัก

ทั้งนี้ คนไข้คนที่ 2 ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ เป็นชายวัย 44 ปี และเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขซึ่งอาศัยและทำงานในซาอุดีอาระเบีย ชายคนนี้เดินทางด้วยเครื่องบินเมื่อวันที่ 1 พ.ค.จากเมืองเจดดาห์ไปกรุงลอนดอน จากนั้นบินต่อไปยังนครบอสตัน และเมืองออร์แลนโด

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 15 พฤษภาคม 2557