ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปธ.สหวิชาชีพสธ.ยืนยัน จ้างพกส. เงินไม่ได้ปรับเพิ่ม 1.2 เท่าตามที่รับปากไว้ เหตุสธ.ผิดแผน ยังไม่สามารถบรรจุข้าราชการได้ เพราะติดยุบสภา ส่งผลเงินบำรุงไม่พอจ่าย บางคนได้เพิ่มเพียง 30 บาท ด้านหมอวชิระ รองปลัดสธ.ยืนยัน จ้างพกส.มีผลแล้ว ย้อนหลังตั้งแต่ 1 ต.ค.56 เข้าใจลูกจ้างสับสน กำชับสสจ.ชี้แจงทำความเข้าใจด่วน

หลังกระทรวงสาธารณสุขออกมาประกาศว่าได้ดำเนินการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) รอบแรกเรียบร้อยไปกว่า 83% แล้วนั้น ได้มีกลุ่มลุกจ้างชั่วคราวหลายสาขาตบเท้าออกมายืนยันว่ายังไม่มีผลทางกฎหมาย เงินเดือนเอย สวัสดิการเอยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากการเป็นลูกจ้างชั่วคราวแม้แต่น้อย

นายวัฒนะชัย นามตะ ประธานสหวิชาชีพกระทรวงสาธารณสุข 

ล่าสุด นายวัฒนะชัย นามตะ ประธานสหวิชาชีพกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการบรรจุ มีแค่การเรียกไปทำสัญญาเฉยๆ เหมือนจะเป็นการจ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้เป็นคำสั่งออกมาว่าให้ใครเป็นพกส. ทั้งนี้เมื่อพูดถึงความแตกต่างระหว่างการเป็นลูกจ้างชั่วคราวของโรงพยาบาล กับการเป็นพกส. สิ่งที่ได้รับเพิ่มขึ้นแน่นอนคือความมั่นคง ไม่ต้องจ้างเป็นลูกจ้างรายคาบ รายปี เข้ายากออกยาก อยู่ได้ด้วยการประเมินคุณภาพงาน สามารถกู้ได้ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ไปทำสัญญากับธนาคารกรุงไทย และ ธกส.ไว้หมดแล้ว สามารถยื่นกู้ได้เหมือนข้าราชการ ย้าย เรียนต่อได้ แต่ถ้าเป็นลูกจ้างต้องลาออกอย่างเดียวถึงจะไปทำเรื่องนี้ได้ แต่เรื่องเงินค่าตอบแทนเท่าที่ได้คุยกับน้องๆ ในสายวิชาชีพทราบว่าได้รับเพิ่มคนละนิดหน่อย บางคน บางสายงานได้รับเงินเพิ่มเพียง 30 บาท ไม่ใช่การปรับเพิ่มในอัตราที่มากกว่าข้าราชการ 1.2 เท่าอย่างที่กระทรวงฯ เคยบอกเอาไว้ แถมพอมีการปรับขึ้นแล้วก็โดนหักเงินเพิ่มในส่วนของเงินสมทบ เงินค่าสวัสดิการสังคม เช่นเดียวกับสวัสดิการในการรักษาพยาบาลก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมคือใช้สิทธิประกันสังคม ไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลพ่อ แม่ได้เลย

นายวัฒนะชัย กล่าวว่า สาเหตุที่พกส.ไม่ได้รับการปรับค่าตอบแทนเพิ่มในอัตราที่มากกว่าข้าราชการ 1.2 เท่า เพราะเกิด “ผิดแผน” ในกระบวนการจ้างงาน ที่วางลำดับขั้นตอนเอาไว้ว่าจะบรรจุลูกจ้างชั่วคราวสายวิชาชีพไปส่วนหนึ่งไปเป็นข้าราชการก่อน เพราะหากเป็นข้าราชการแล้วเงินค่าตอบแทนจะเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงการคลังแทน เงินบำรุงที่เคยจ่ายให้กับบรรดาลูกจ้างก็จะเหลือมากขึ้นจนอาจจะพิจารณาเพิ่มค่าตอบแทนได้ในอัตราที่กำหนด แต่การผิดแผนที่ว่าคือตอนนี้ไม่สามารถบรรจุลูกจ้างชั่วคราวสายวิชาชีพเป็นข้าราชการได้ เนื่องจากปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้น ประเทศมีรัฐบาลรักษาการ การจะบรรจุข้าราชการจะต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการพิจารณา เพราะฉะนั้นการบรรจุข้าราชการก็เดินหน้าไม่ได้ เงินบำรุงที่คิดเอาไว้ว่าจะเหลือ และจะเอามาจ่ายเพิ่มให้กับพกส.เลยเป็นอันต้องงดไปด้วย เรียกว่าเป็นเหตุการณ์พัวพันกันมันเลยผิดแผน

“จริงๆ ถ้าบรรจุข้าราชการได้หมด 2 รอบ 7,500 + 7,500 หมายความว่าเม็ดเงินที่จ่ายเลี้ยงคนอยู่ 15,000 คน นั้นคือเงินบำรุงที่จ่ายไปนั้น ก็ตัดออกไปเอาเงินจากกรมบัญชีกลางที่เหลือ ทีนี้ก็ค่อยมาคิดว่า 1.2 เท่า จะได้ไหม เพราะถึงกระทรวงบอกได้ แต่โรงพยาบาลไม่มีตังค์จ่ายก็จะเอาที่ไหนมาจ่าย ก็ไม่ได้อยู่ดี คือถ้าบรรจุข้าราชการได้สิ่งที่ตามมาคือเรื่องการบรรจุ พกส.ก็จะเป็นเรื่องดี แต่กลายเป็นว่าการบรรจุข้าราชการติดล็อคเรื่องครม. ก็เลยไปทำ พกส.ก่อน พอทำพกส.เสร็จแต่เม็ดเงินยังไมได้มันเลยไม่สอดคล้องกัน เพราะฉะนั้นถ้าเปิดใจกว้างๆ ช่วงนี้ถ้าเรียกร้องกันยังไงก็ไม่ได้ แต่ถ้าไม่มองเรื่องเงินคือตอนนี้คุณก็ได้เงินเท่าเดิมไม่ได้ลดลง แต่สถานะดีขึ้น มั่นคงขึ้น สามารถยื่นกู้ได้แล้ว ย้ายได้แล้ว ลาศึกษาต่อได้แล้ว” ประธานสหวิชาชีพกระทรวงสาธารรณสุข กล่าว

นายวัฒนะชัย กล่าวต่อว่า อีกประเด็นหนึ่งที่ยังไม่มีใครกล้าหยิบขึ้นมาพูด ไม่กล้าหยิบขึ้นมาพิจารณาคือการจ่ายเงินค่าตอบแทนย้อนหลังไปถึงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นกำหนดการแรกเริ่มที่กระทรวงสาธารณสุขรับปากว่าจะบรรจุ พกส.ได้ภายในเดือนนั้น ว่าจะได้รับการชดเชยในอัตราที่มากกว่าข้าราชการ 1.2 เท่า หรือว่าจะชดเชยในอัตราที่ได้รับเพิ่มเติมในปัจจุบันอย่างที่บอกว่าบางคน บางสายงานได้รับเพิ่มเพียง 30 บาท ตรงนี้ยังไม่มีใครกล้ารับปากว่าเงินที่จะให้นั้นจะเอามาจากตรงไหน เพราะฉะนั้นถ้าเทียบจริงๆ คือแค่เปลี่ยนชื่อจากลูกจ้างไปเป็น พกส. เฉยๆ

ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้กล่าวถึงกรณีที่ลูกจ้างชั่วคราวของโรงพยาบาลที่เพิ่งเปลี่ยนสถานะมาเป็น พกส. ว่า ก่อนหน้านี้พนักงานที่ผ่านการประเมินให้ได้รับการบรรจุเป็น พกส.ต้องมาเซ็นสัญญาทุกคน และนับตั้งแต่วันที่มีการเซ็นสัญญานั่นคือมีผลในทางปฏิบัติแล้ว แต่วันนี้ยังพบว่าเกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน เนื่องจากผู้รับผิดชอบในส่วนของต่างจังหวัดซึ่งรับคำสั่งจากส่วนกลางไปแล้วไม่ได้ประกาศให้กับ พกส. ทราบ เพราะคิดว่าไม่เป็นไร ในขณะที่น้องๆ ที่เพิ่งจะบรรจุเป็น พกส. ไม่เห็นคำสั่ง ไม่เห็นแนวปฏิบัติที่แท้จริง จึงเกิดความกังวลใจ ดังนั้นจึงได้กำชับไปยังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดว่าต่อไปนี้หากมีคำสั่งจากส่วนกลางลงไปจะต้องแจ้งให้กับผู้ปฏิบัติงานได้รับทราบโดยทั่วกัน นอกจากนี้ยังยืนว่า 115,773 คน ที่เซ็นสัญญาเป็น พกส.ไปแล้วนั้นทั้งในส่วนของค่าตอบแทน และสวัสดิการจะได้รับย้อนหลังไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ในส่วนของเงินเดือนใหม่ หรือสวัสดิการใหม่นั้น สำหรับคนที่ได้รับเงินเดือนมากกว่าเดิมนั้นตามระเบียบราชการจะต้องมีการตกเบิก ซึ่งบางครั้งอาจจะนานถึง 3 เดือน หรือ 6 เดือน ไม่ใช่ว่าเซ็นสัญญาเสร็จจะได้รับเงินเดือนใหม่ทันที ตรงนี้น้องๆ อาจจะยังไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวล

“ตัวเขาอาจจะยังไม่ได้เซ็นรับทราบ อาจจะยังกังวลใจ เลยกำชับอีกครั้งว่าให้รีบทำคำสั่งและให้พนักงานเซ็นรับทราบอีกครั้งจะได้สบายใจ” นพ.วชิระ กล่าว และว่า ส่วนที่เหลือยังไม่ครบนั้นขึ้นอยู่กับว่าเขตต่างๆ เขาจะประเมินมา เราเลื่อนการยื่นอุทธรณ์มาที่กรรมการพกส. ไปอีก 1 เดือน จาก 31 ม.ค. ไปเป็น 28 ก.พ. แต่ถ้าเขตเขาไม่อุทธรณ์บอกว่าเอาแค่นี้ก็จบ แต่ถ้าจะอุทธรณ์ก็บอกเหตุมา เช่น ภาระงานเป็นอย่างไร เงินที่จ้างไม่ถึง 10% ก็บอกมา ส่วนใหญ่ภาพรวมมันต่ำกว่าศูนย์ เงินที่จ้างมันน้อยกว่าวันที่1 พ.ค. 2556 พูดง่ายๆ เงินยังมีอีกถ้าเขตเขาพิจารณาจัดจ้าง แต่ถ้าเขาบอกว่าพอแล้ว แค่นี้สมควรกับภาระงานแล้วเขาก็ไม่เสนอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้อการของแต่ละหน่วยที่ต้องการคนทำงานในการจ้างงานแบบใหม่

พญ.อุทุมพร กำภู ณ อยุธยา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เงื่อนไขของการจ้างพนักงานกระทรวงสาธารณสุขรอบนี้เป็นการจ้างคนเดิม ไม่ใช่การจ้างคนใหม่ โดยทางปฏิบัติคือคนทำงานกันแล้ว เพราะฉะนั้นคนเดิมก็ปฏิบัติงานที่เดิมอยู่แล้ว อาจจะมีบางที่อาจจะมีการสลับที่หรืออาจจะมีการปรับงาน สลับงานกันบ้าง อาจจะเป็นหน่วยงานย่อยในโรงพยาบาลเดิมหรืออาจจะเป็นระหว่างโรงพยาบาล จึงอาจจะยังไม่เข้าใจว่าจะไปปฏิบัติงานตรงไหน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ ได้กำชับให้ดำเนินการให้เรียบร้อย