ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

โพสต์ทูเดย์ -แนะพยาบาลอาเซียนเร่งถกเกณฑ์ต่อใบอนุญาตวิชาชีพ เคลียร์ปมระยะเวลา-ชั่วโมงพัฒนาฝีมือ

นางวิจิตร ศรีสุพรรณ นายกสภาการพยาบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้อาเซียนแต่ละประเทศยังมีมาตรฐานการต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์แตกต่างกันมาก ดังนั้น เมื่อข้อตกลงยอมรับร่วมคุณสมบัตินักวิชาชีพ(เอ็มอาร์เอ) กลุ่มพยาบาลของอาเซียนระบุให้พยาบาลที่เข้าไปทำงานในประเทศอื่นยึดหลักการศึกษาต่อเนื่องสาขาพยาบาลศาสตร์ (ซีเอ็นอี) ของประเทศนั้นๆ ในการต่อใบอนุญาต ผลจึงออกมาแตกต่างกัน จึงต้องเจรจาเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนก่อนเปิดประชาคมอาเซียนในปี 2558

"สิงคโปร์กำหนดให้พยาบาลต้องต่อใบอนุญาตทุก 2 ปี แต่ละปีจะต้องมีชั่วโมงซีเอ็นอีไม่ต่ำกว่า 15 ชั่วโมง ขณะที่บางประเทศยังไม่มีเกณฑ์ซีเอ็นอีที่ชัดเจนบางประเทศไม่ได้กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องมาต่อใบอนุญาตใหม่ อาเซียนจึงต้องคุยกันต่อเพื่อให้ได้เกณฑ์ที่ใกล้เคียงกันและเหมาะสม"

สำหรับเกณฑ์ของไทยในการต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์นั้นกำหนดไว้ทุก 5 ปีโดยผู้มีความประสงค์จะต่อใบอนุญาตต้องแสดงหลักฐานว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาได้รับการศึกษาต่อเนื่องเช่น การประชุมวิชาการ การพัฒนาความรู้ผ่านช่องทางต่างๆรวมไม่ต่ำกว่า 50 ชั่วโมง หรือเฉลี่ยปีละ10 ชั่วโมง เมื่อมีพยาบาลชาวอาเซียนเข้ามาทำงานหลังปี 2558 ก็จะใช้เกณฑ์เดียวกันนี้ในการต่อใบอนุญาต

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังไม่ได้มีการพูดคุยว่าจะปรับแก้เกณฑ์ซีเอ็นอีในประเทศหรือไม่ เพื่อเตรียมรองรับการมีพยาบาลจากกลุ่มอาเซียนเข้ามาทำงานและให้พยาบาลทั้งไทยและอาเซียนได้ปรับปรุงวิชาชีพอย่างต่อเนื่องทั้งนี้ วิชาชีพพยาบาลได้เปลี่ยนจากการให้ใบอนุญาตตลอดชีพ มาเป็นการต่อใบอนุญาตทุก 5 ปีตั้งแต่ปี 2540

ขณะที่การรับพยาบาลจากประเทศอาเซียนเข้ามาทำงานในไทยนั้น จะต้องตรวจสอบใบอนุญาตจากประเทศต้นทางให้แน่ชัดด้วย หากเป็นใบอนุญาตที่หมดอายุหรือใกล้หมดอายุแล้วก็อาจพิจารณาไม่ให้สิทธิเข้ามาสอบและรับใบอนุญาตทำงานในไทย

ทั้งนี้ เอ็มอาร์เอกลุ่มพยาบาลของอาเซียน ระบุว่า พยาบาลที่จะสามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานในประเทศอื่นได้นั้นต้องมีคุณสมบัติ คือ 1.สำเร็จการศึกษาวิชาชีพพยาบาล 2.จดทะเบียนหรือได้รับใบอนุญาตจากประเทศต้นทางที่ยังมีผลในปัจจุบัน 3.มีประสบการณ์ภาคปฏิบัติในวิชาชีพพยาบาลต่อเนื่องไม่น้อยกว่า3 ปีก่อนยื่นขอใบอนุญาตในประเทศอื่น4.ปฏิบัติสอดคล้องกับเกณฑ์ซีเอ็นอีของประเทศต้นกำเนิดในระดับที่น่าพอใจ 5.ได้รับการรับรองว่าไม่เคยทำผิดร้ายแรง และ6.มีคุณสมบัติอื่นๆตามที่ประเทศปลายทางกำหนด

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 8 มกราคม 2557