ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สยามรัฐ - ปีงบประมาณของสหรัฐอเมริกาเหมือนกับของไทยคือเริ่มต้นวันที่ 1 ต.ค.ไปสิ้นสุด30 ก.ย. ของปีถัดไป ปีนี้ก็เป็นปีแรกในรอบ 17 ปีที่ตกลงงบประมาณใหม่กันไม่ได้แม้จะเลยเที่ยงคืนของวันที่ 1 ต.ค. ไปแล้ว (ตามเวลาทางตะวันออกของอเมริกาที่ช้ากว่าเวลาประเทศไทย 11 ชม.) ทำให้สถานราชการต่างๆเช่น อุทยานแห่งชาติ กรมสรรพากร ต้องงัดแผนฉุกเฉินเพื่อปิดบริการในวันที่1ต.ค. รวมไปถึงอาจเกิดข้อขัดข้องในการให้บริการด้านต่างๆ เช่นการให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร จนกว่าจะตกลงในเรื่องงบประมาณกันได้ ยกเว้นผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ การจ่ายเงินประกันสังคมยังคงดำเนินต่อไป

สาเหตุหลักก็มาจากการต่อรองกันระหว่าง 2 พรรคใหญ่ เดโมแครต (พรรคของโอบามาที่มีเสียงข้างมากในวุฒิสภา) และ รีพับลิกันที่มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ให้เลื่อนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือที่เรียกกันเป็นชื่อเล่นว่าโอบามาแคร์ (Obama Care) ออกไปอีก 1 ปี (เดิมจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 ต.ค.2556) โอบามาแคร์มีวัตถุประสงค์ให้พลเมืองอเมริกันสามารถซื้อประกันได้ถูกลงรวมไปถึงบริษัทประกันไม่สามารถปฏิเสธใบสมัครซื้อประกันในกรณีที่ผู้ประกันมีปัญหาสุขภาพก่อนหน้าที่จะซื้อหรือในขณะที่ผู้ซื้อประกันป่วยอยู่

ปัญหาที่ต้องมีการกระทำที่อาจถือได้ว่าเอางบประมาณเป็นตัวประกันก็เนื่องจากโอบามาแคร์ทำให้ราคาประกันสุขภาพที่แพงหูฉี่ ถูกลงได้ด้วยการที่รัฐช่วยออกให้ (รัฐจ่ายโดยตรงกับบริษัทประกัน) จะเป็นเงินเท่าไร ขึ้นกับรายได้ของแต่ละครัวเรือนถ้ามีรายได้ต่อครัวเรือนต่ำมาก ก็จะมีประกันของรัฐ เช่นในรัฐแคลิฟอร์เนียมี Medi-Cal ของรัฐบาลเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย อันนี้ไม่เพิ่มงบประมาณรัฐบาลกลางให้มากขึ้นแต่อย่างใดเนื่องจากมีอยู่แล้วแต่ถ้ามีเงินเดือนสูงเกินเกณฑ์ก็จะไม่ได้เงินช่วยเหลือจากรัฐโอบามาแคร์ก็จะทำให้เกิดภาระผูกพันกับงบประมาณโดยเฉพาะเมื่อประเทศเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

เรื่องงบประมาณยังตกลงกันไม่ได้ ยังมีเรื่องที่รัฐสภาจะต้องตกลงเพิ่มเพดานการกู้ยืมก่อนวันที่ 17 ต.ค.นี้ ที่ชนเพดานเงินกู้ 16.7 ล้านล้านเหรียญไปตั้งแต่เดือนพ.ค. (แต่ที่ยังไม่เกิดการผิดนัดชำระหนี้ก็เพราะใช้เทคนิคในการบริหารเงินสดเช่น พักการลงทุนในกองทุนบำนาญของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเทคนิคต่างๆ จะหมดฤทธิ์ในกลางเดือนต.ค. นี้) ตามคำเตือนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไม่อย่างนั้นสหรัฐฯ จะมีเงินในมือเพียง 3 หมื่นล้านเหรียญเพื่อจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จะมีพันธบัตรรัฐบาลถึงกำหนดจ่ายเงินในระหว่างวันที่22 ต.ค.ถึงสิ้นเดือน ต.ค. นอกจากนี้ในวันที่ 1 พ.ย. รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ต้องจ่ายเงินเป็นค่าประกันสังคม บำนาญและทหารประจำการเป็นเงินถึง 67,000 ล้านเหรียญ ถ้าไม่มีการขยายเพดานการกู้เงิน สหรัฐฯ ก็จะอาจผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรก อันจะส่งผลอย่างมากต่อการกู้เงินในอนาคต อัตราดอกเบี้ยต้องเพิ่มขึ้น และเจ้าหนี้รายใหญ่ที่ถือพันธบัตรรัฐบาลมากที่สุดในโลก อย่างประเทศจีน อีกทั้งยังส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกอีกด้วย

แม้จะมีความพยายามจากสภาสหรัฐฯ ให้กระทรวงการคลังเลือกความสำคัญระหว่างการจ่ายเงินประกันสังคมกับการจ่ายหนี้ แต่รมว.คลังปฏิเสธที่จะเลือกเนื่องจากความสำคัญของทั้งคู่ที่ถ้าสหรัฐฯ ไม่จ่ายเงินตามพันธะที่มี ก็จะเกิดแต่ความหายนะตามมา ประธานาธิบดีโอบามาตั้งใจที่จะไม่ต่อรองใดๆกับรัฐสภา แต่นักวิเคราะห์หลายท่านมองว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีการต่อรองยกแรกในเรื่องงบประมาณ ถ้าเดโมแครตชนะ ไม่ต้องเลื่อนโอบามาแคร์และตกลงเรื่องงบประมาณได้ เดโมแครตและประธานาธิบดีโอบามาก็ยังต้องเจอด่านสองคือเพิ่มเพดานเงินกู้ ที่รีพับลิกันคงเอาโอบามาแคร์มาต่อรองให้เลื่อนอย่างเต็มที่ ถ้าตกลงกันไม่ได้ งานนี้จะทำเอาเศรษฐกิจสหรัฐฯ เศรษฐกิจโลกรวมไปถึงไทย อาจต้องเข้าสู่วิกฤติกันอีกครั้งก็เป็นได้ คงต้องจับตากันอย่างใกล้ชิด

ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ  วันที่ 3 ตุลาคม 2556